การทำให้ Yoast SEO แสดงผลไฟเขียว สำคัญอย่างไร

Yoast SEO เป็น plugin อันดับต้น ๆ ที่คนทำงานด้านเว็บไซต์ SEO บอกต่อให้ใช้กัน เพราะจะช่วยให้ผู้ใช้งานโปรแกรม WordPress เขียนบทความประกอบเป็นเว็บไซต์ได้อย่างมีคุณภาพยิ่งขึ้นหลายเท่าตัว ซึ่งการผลิตบทความที่มีเอกลักษณ์ โดดเด่นและมีคำสำคัญที่ตรงกับการสืบค้น จำเป็นสำหรับธุรกิจออนไลน์ทุกประเภทอย่างมาก

ไฟแสดงผลการวิเคราะห์ จากการทำ Yoast SEO

การทำให้ Yoast SEO ขึ้นไฟแสดงผลการวิเคราะห์ส่วนต่าง ๆ ของบทความ SEO เป็นสีเขียวนั้นสำคัญมาก และนับว่าเป็นที่ต้องการของผู้ใช้งานทุกคน เพราะเท่ากับเป็นการการันตีได้ว่าเมื่อนำไปใช้โพสต์ลงในเว็บไซต์แล้ว จะส่งเสริมโอกาสในการแข่งขันทางธุรกิจได้สูงกว่ากรณีที่ขึ้นเป็นไฟสีส้มหรือสีแดง ที่แปลว่าไม่ผ่านหรือต้องปรับปรุง

Yoast SEO เป็นโปรแกรมที่สามารถดาวน์โหลดได้ฟรี ใช้งานได้สะดวก ใช้เวลาเรียนรู้น้อย แม้จะมีการอธิบายเป็นภาษาอังกฤษ ในส่วนคำอธิบายผลวิเคราะห์ แต่ก็เป็นศัพท์ที่เข้าใจง่าย เหมาะกับผู้ใช้งานทั่วไป

ดังนั้น ไม่ว่าจะทำธุรกิจอะไร เช่น การโรงแรม ท่องเที่ยว รีสอร์ท ร้านอาหารขนมหวาน ร้านกาแฟ ขายเสื้อผ้าแฟชั่น กีฬา สินค้ากลุ่มแม่และเด็ก ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพความงาม เครื่องสำอาง สินค้าไอที โทรศัพท์มือถือ ฯลฯ ก็ควรศึกษาการใช้งาน Yoast SEO ไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ

ในการใช้งาน Yoast SEO คุณสามารถทำให้ผลไฟวิเคราะห์ขึ้นเป็นสีเขียวได้ด้วยวิธีต่าง ๆ ดังนี้

1. การตั้งชื่อบทความ

ไม่ควรจะสั้นหรือยาวมากเกินไป มีการใส่ keyword หลักที่ตรงกับการสืบค้นของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ซึ่งควรจะเป็นคำที่มีความจำเพาะเจาะจง เช่น เพศ รุ่นสินค้า สี ฯลฯ หรือที่เรียกว่า niche long-tailed keyword เช่น ไม่ควรใช้คำว่า รองเท้ากีฬา แต่ควรเป็น รองเท้า adidas รุ่น abc ผู้ชาย ราคาถูก มือสอง เป็นต้น

2. การใช้ keyword

ควรมีคำสำคัญในบทความ เป็น keyword หลักคำเดียว และอาจมีคำรอง อีก 1-2 คำ ก็ได้ โดยต้องเขียนกระจายสม่ำเสมอในบทความ ทั้งส่วนต้น กลางเนื้อหาหลัก และส่วนสรุปจบ

3. ความยาวบทความ

เนื้อหาเรื่องที่ดีในภาษาไทยไม่ควรมีความยาวต่ำกว่า 300 คำ และยิ่งยาวถึง 2,000คำได้ก็ยิ่งดีต่ออันดับ SEO

4. ความเป็นเอกลักษณ์

เนื้อหาบทความต้องมีรายละเอียดเชิงลึกที่น่าสนใจและไม่มีการคัดลอกจากที่ไหน เพราะระบบคอมพิวเตอร์จะตรวจจับและอาจทำให้อันดับความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ที่นำบทความไปใช้ลดลง

5. การใส่ลิงก์

การทำลิงก์ลงในบทความ จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถคลิกที่ตัวอักษร เพื่อขึ้นเป็นหน้าเพจใหม่ได้ในทันที จึงสะดวกและสร้างความประทับใจให้ผู้อ่าน

จะเห็นได้ว่า Yoast SEO มีประโยชน์ต่อการทำธุรกิจออนไลน์อย่างมาก ผู้ที่ต้องการประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ จึงต้องศึกษาการใช้งานเพื่อส่งเสริมให้มียอดขายและจำนวนลูกค้าประจำมากขึ้นเรื่อย ๆ

ไฟแสดงผลการวิเคราะห์ จากการทำ Yoast SEO

ชวนทำความรู้จัก Plugin ตรวจสอบ SEO

ผู้สนใจจะใช้ปลั๊กอิน SEO ควรทราบ

ปัจจุบันการทำ SEO เป็นเทคนิคสำคัญในการทำให้อันดับการสืบค้นเว็บไซต์ทางธุรกิจสูงขึ้น จากผลการวิเคราะห์ของระบบอัลกอริทึมของ Google ที่ดี ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดแนะนำให้ผู้ทำเว็บไซต์ออนไลน์ระบบ SEO ติดตั้ง plugin เพื่อตรวจสอบ SEO จะทำให้หาจุดบกพร่อง แก้ไขส่วนต่าง ๆ ของบทความ SEO ได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด เพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพด้านธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น

โดยนักทำเว็บไซต์ SEO ทั่วโลก มีความนิยมใช้ plugin อยู่ 3 ชนิด คือ All In One SEO, Yoast SEO และ Rank Math ซึ่งมีความคล้ายคลึงกันในส่วนการวิเคราะห์ SEO พื้นฐาน คือ สามารถช่วยวิเคราะห์คุณภาพของการตั้งชื่อหัวข้อ (Title) ส่วนคำบรรยายสรุป (Meta Description) และส่วนอื่น ๆ (ซึ่งสองจุดที่กล่าวมา เป็นจุดดึงดูดสำคัญให้กลุ่มเป้าหมายคลิกเข้ามาในเว็บไซต์ ซึ่งจะปรากฏในหน้าต่างการสืบค้น หลังจากที่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายพิมพ์ในช่อง Google Search)

นอกจากที่กล่าวมาแล้ว Plugin ตรวจสอบ SEO ทั้งสามยังมีองค์ประกอบที่ช่วยในการจัดการทางเทคนิคเกี่ยวกับโครงสร้างของเว็บไซต์ หรือที่เรียกว่า site map รวมถึง การนำส่งข้อมูล Import Export เพื่อการสำรองการตั้งค่าและใช้ในการปรับเปลี่ยนข้อมูลทางเทคนิคได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ยังมีความแตกต่างในรายละเอียดบางอย่างของแต่ละชนิด Plugin ตรวจสอบ SEO ที่ผู้สนใจจะใช้ปลั๊กอิน SEO ควรทราบ เพื่อการเลือกได้อย่างเหมาะสม ดังนี้

1. All In One SEO

คุณสมบัติโดดเด่นที่เห็นได้ชัดเจน คือ ความสะดวก ใช้งานง่าย จึงเหมาะกับผู้ที่ทำเว็บไซต์ SEO ในระยะในเบื้องต้น สามารถที่จะตั้งค่าสถานะพื้นฐานต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ แม้จะเป็นมือใหม่เพิ่งเรียนรู้ โดยระบบจะมีการประมวลสรุปสถานะแบบเรียลไทม์ให้ทราบว่า Server กำลังมีการทำงานอย่างไรอยู่ แต่ก็มีจุดอ่อนตรงที่ไม่มีระบบป้องกันมัลแวร์หรือ bot ที่อาจจะทำอันตรายข้อมูลในเว็บไซต์ได้

2. Yoast SEO

เป็นปลั๊กอิน SEO ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากเป็นแบรนด์แรกที่มีการเผยแพร่การใช้งาน ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับ Google ได้ง่าย เรียนรู้ไม่ยาก และมีฟังก์ชันพิเศษ คือ Bulk Edit ที่ทำให้นักพัฒนาเว็บไซต์ SEO สามารถแก้ไข SEO ทั้งเว็บไซต์ได้ผ่านจุดเดียว (ไม่ต้องแก้ทีละหน้าเพจ) แต่ก็มีจุดอ่อนคือ ยังวิเคราะห์ภาษาไทยไม่แม่นยำ

3. Rank Math

เป็นปลั๊กอินตรวจสอบ SEO ที่คิดค้นใหม่ล่าสุดในปี 2019 มีความสามารถเช่นเดียวกับ Yoast SEO แต่มีความโดดเด่นที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลบทความที่เป็นภาษาไทยได้ และมีฟังก์ชันที่รองรับการทำงานของระบบการซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ตระบบ 5G และ 6G ในอนาคตด้วย

จะเห็นได้ว่า plugin ตรวจสอบ SEO แต่ละชนิด มีรายละเอียดบางส่วนที่เหมือนกันและมีความโดดเด่นในคุณสมบัติบางอย่างที่แตกต่างกันบ้าง ผู้ที่ทำเว็บไซต์ SEO จึงควรพิจารณาเลือกใช้ตามความเหมาะสม และควรเรียนรู้การใช้ปลั๊กอินควบคู่กับการพัฒนาเว็บไซต์ SEO เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ดียิ่งขึ้น

ชวนทำความรู้จัก Plugin ตรวจสอบ SEO