ทำไมแบรนด์ส่วนใหญ่หันมาทำ SEO

ทำไมแบรนด์ส่วนใหญ่หันมาทำ SEO

เราจะเห็นตามเว็บไซต์ประกาศรับสมัครงานรวมถึงการตามหาผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้มาเป็นคนทำ SEO ให้กับแบรนด์หลายแบรนด์ ซึ่งสัญญาณนี้ถือเป็นสัญญาณที่ดีในการทำการตลาดออนไลน์มากเลยทีเดียวล่ะ ว่าแต่จะเป็นเพราะอะไร ทำไมแบรนด์ถึงหันมาทำ SEO กันมากขึ้น มาติดตามกันเลยดีกว่า

เหตุผลที่แบรนด์ทำไมต้องทำ SEO

ให้ผลลัพธ์ในระยะยาวที่ดีกว่าการโฆษณา : การทำโฆษณานั้น จะทำให้เว็บไซต์ของคุณขึ้นไปอยู่บนหน้าแรกของ Google ในช่วงระยะเวลาที่เงินเหลือเท่านั้น แต่เมื่อไหร่ที่คุณไม่จ่ายเงินต่อ ก็มีโอกาสทำให้เว็บไซต์ร่วงออกไปจากหน้าแรก ๆ ของ Google ได้ โดยเราสามารถสรุปได้สั้น ๆ ว่าการทำโฆษณามีประโยชน์ก็จริง แต่มันอาจไม่ยั่งยืนในระยะยาวนั่นเอง

รองรับการค้นหาของลูกค้าแบบ organic : พฤติกรรมของคนสมัยนี้มีการเปลี่ยนแปลงวิธีหาข้อมูลของสินค้าหรือบริการที่ตัวเองสนใจมาเป็นการค้นหาบนช่องทางออนไลน์รวมถึง Google ด้วย ไม่ว่าจะซื้อสินค้าหรือมีปัญหาอะไร คนเรามีแนวโน้มที่จะใช้ช่องทางออนไลน์เป็นพื้นที่สื่อสารของตัวเองมากขึ้นไปเรื่อย ๆ ฉะนั้นการติดอันดับ SEO ได้ก็มีโอกาสทำให้กลุ่มเป้าหมายรู้จักคุณมากขึ้น

ต้นทุนไม่สูงเหมือนค่าโฆษณา : หากเปรียบเทียบเรื่องของต้นทุนในรูปแบบของเงินนั้น เราสามารถบอกได้ว่า SEO จะทำให้คุณประหยัดเงินในระยะยาวได้มากกว่าหลายเท่าเลยทีเดียว เพราะการโฆษณานั้น คุณจะต้องประมูลค่าโฆษณาแข่งกับคู่แข่งตลอดเวลา อีกทั้งยังต้องใช้งบประมาณที่สูงกว่าสำหรับ keyword ที่เป็นคำสั้น ๆ อีกด้วย

SEO เป็นส่วนหนึ่งของการทำการตลาดออนไลน์ที่ได้ผล : มีแบรนด์ส่วนใหญ่ที่หันมาทำ SEO แล้วได้ลูกค้าเป็นจำนวนมาก นั่นเป็นเพราะลูกค้าให้ความเชื่อมั่นกับอันดับที่เป็น organic มากกว่าอันดับที่มาจากโฆษณา และเมื่อติด อันดับ SEO แล้ว โอกาสที่ลูกค้าจะกดซื้อหรือกรอกข้อมูลเพื่อขอซื้อบริการก็ย่อมมีมากกว่าแบรนด์ที่ไม่ได้อยู่บนหน้าแรก ๆ ของ Google เลย

การทำ SEO ให้ติดหน้าแรกของ search engine ถือเป็น digital asset ของแบรนด์ : ทรัพย์สินที่มีค่าอย่างหนึ่งของแบรนด์บนโลกออนไลน์นั่นก็คือเว็บไซต์ หากธุรกิจของคุณเป็นธุรกิจประเภทที่ต้องมีการรวมทุนหรือสร้างขึ้นมาเพื่อขายไป การติดอันกับ SEO จะทำให้เว็บไซต์ของคุณรวมถึงแบรนด์มีมูลค่าที่สูงขึ้นตามไปด้วย แล้วยังมีอำนาจต่อรองบนช่องทางออนไลน์กับนักลงทุนมากกว่าอีกด้วย

เห็นไหมว่าการทำ SEO นั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่การไต่ขึ้นไปอยู่บนหน้าแรกของ search engine เพื่อเป็นเว็บไซต์ที่กลุ่มเป้าหมายของคุณจะเลือกคลิกเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างคุณค่าให้กับแบรนด์และมีข้อดีหลายข้อมากเลยทีเดียว และนี่ก็คือสาเหตุสำคัญที่แบรนด์ต่าง ๆ หันมาทำ SEO กัน

เหตุผลที่แบรนด์ทำไมต้องทำ SEO

6 ข้อต้องห้าม ในการทำ SEO

6 ข้อต้องห้าม ในการทำ SEO

ในปี 2019 การขายสินค้าออนไลน์เป็นที่นิยมมาก ซึ่งการประชาสัมพันธ์ด้วยการทำ SEO หรือ Search Engine Optimization เป็นสิ่งที่นักธุรกิจควรทำอย่างถูกต้อง เพื่อให้มีการจัดอันดับที่ดีและมียอดขายเพิ่ม

เราจึงได้รวบรวม SEO ที่ไม่ควรทำ ในปี 2019 มาฝากกัน เพื่อที่จะเป็นแนวทางให้ระมัดระวังมากยิ่งขึ้น ดังนี้

1. ไม่ควรจะคัดลอกเนื้อหาจากเว็บไซต์อื่น ๆ หรือที่เรียกว่าการทำบทความซ้ำ (Plagiarism) เนื่องจากว่าระบบ Search Engine อย่าง Yahoo และ Google มี AI ที่สามารถที่จะตรวจสอบและวิเคราะห์ได้ จะทำให้การจัดอันดับเว็บไซต์ของคุณตกลง และส่งผลเสียต่อยอดขายธุรกิจของคุณตามมาด้วย

2. ไม่ควรใส่คีย์เวิร์ดมากเกินไปจนทำให้เนื้อหาของบทความไม่เป็นธรรมชาติ และจะทำให้ถูกวิเคราะห์ว่าเป็นบทความขยะ (Spam) ที่คุณภาพต่ำ ไม่ให้ประโยชน์แก่ผู้อ่านได้จึงควรใส่ 1-2 คีย์เวิร์ดต่อบทความให้กระจายในส่วนต่าง ๆ โดยที่เน้นความเป็นธรรมชาติของเนื้อหาให้มากขึ้นด้วย

3. บทความและลิงก์ที่เชื่อมด้วยกัน โดยเป็นแนวเชียร์ขายสินค้ามากเกินไป บทความแบบนี้จะมีคุณภาพต่ำและในปัจจุบันไม่ได้รับความนิยมจากผู้อ่านแล้ว นอกจากนี้ ระบบ Algorithm ยังวิเคราะห์ว่าเป็นบทความขยะด้วย ทำให้การจัดอันดับเว็บไซต์ไม่ดีเท่าที่ควร และให้เสียเวลารวมถึงค่าใช้จ่ายในการทำ SEO ไปโดยไม่จำเป็น

4. การเป็นบทความที่เนื้อหาอ่านยาก ไม่มีภาพประกอบ ไม่มีคลิปวิดีโอ จะเป็นบทความที่คนไม่ค่อยนิยมอ่าน เพราะไม่มีสิ่งดึงดูดความสนใจเท่าที่ควร จึงควรเพิ่มส่วนของสื่อมัลติมีเดียประกอบให้มากขึ้น ในการทำ SEO ให้เว็บไซต์

5. การไม่ทำ Meta-Description หรือข้อความสั้น ๆ ที่มีเนื้อหาเป็นภาพรวมของบทความทั้งหน้าเพื่อให้ผู้ที่เห็นเว็บไซต์ใน Search Engine ได้รู้ว่าถ้าคลิกเข้ามาแล้วจะได้อ่านบทความเกี่ยวกับเรื่องอะไร การมี Meta-Description ช่วยทำให้มีโอกาสเพิ่มที่ลูกค้าจะตัดสินใจคลิกเข้ามาในเว็บไซต์ของคุณ

6. การทำ SEO แบบไม่ต่อเนื่อง จะทำให้อันดับของเว็บไซต์ไม่แน่นอนและตกไปอยู่อันดับท้าย ๆ ในหน้าต่างการสืบค้นได้ เพราะการจัดอันดับต้องใช้การสะสมข้อมูลและวิเคราะห์ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ AI ของ Search Engine เว็บไซต์ที่ทำ SEO อย่างสม่ำเสมอจึงจะมีผลการจัดอันดับดีและมีลูกค้าต่อเนื่องตลอดเวลา

จากทั้ง 6 ข้อที่กล่าวมา จะเห็นได้ว่าเป็นการทำ SEO ที่ไม่ควรทำ ไม่ว่าจะทำ SEO เอง หรือจ้างบริษัททำก็ต้องทำการตรวจสอบคุณภาพของผลงานอย่างสม่ำเสมอและทำการวิเคราะห์ผลการทำ SEO ว่าทำให้มีลูกค้าเพิ่มขึ้นและคุ้มกับค่าใช้จ่ายหรือไม่ หากไม่สามารถทำเองได้ ควรเลือกบริษัทที่มีความชำนาญ เพื่อให้ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น

6 ข้อต้องห้าม ในการทำ SEO

เว็บไซต์ขายของออนไลน์ปี 2019 ทำไมต้องทำ SEO

เว็บไซต์ขายของออนไลน์ปี 2019 ทำไมต้องทำ SEO

การจะประสบความสำเร็จในธุรกิจขายสินค้าและบริการบนโลกอินเทอร์เน็ตได้นั้น จำเป็นต้องมีการทำเว็บไซต์ในรูปแบบของ SEO เพื่อให้ง่ายต่อการสืบค้นเจอของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายผ่านระบบ search engine ต่าง ๆ

เว็บไซต์ขายของออนไลน์ปี 2019

การที่มีเว็บไซต์แต่ไม่ปรากฏบนหน้าต่างแรกในผลการสืบค้น ก็เท่ากับมีสินค้าดีแต่ถูกขายในทำเลที่แย่ ไม่มีลูกค้าเดินผ่าน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมการทำเว็บไซต์ขายของในปี 2019 จึงต้องทำ SEO โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1. มีโครงสร้างของเว็บไซต์ตามรูปแบบที่ search engine กำหนด เช่น google , yahoo หรือที่เรียกในศัพท์เทคนิคว่า มี crawl ability เพื่อให้ระบบ algorithm ของ กูเกิ้ล ยาฮู คำนวณวิเคราะห์ได้ว่าเว็บไซต์ของคุณมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ และทำให้การจัดอันดับมีผลดีขึ้นรวดเร็ว

2. การผลิตเนื้อหา สำหรับใส่ในเว็บไซต์ที่มีคุณภาพมีคีย์เวิร์ด SEO แทรกกระจายอย่างสม่ำเสมอในบทความที่ต้องมีอย่างน้อยในส่วนของหัวข้อ หรือ title ส่วน description ที่เป็นย่อหน้าแรก หรือภาพรวมของเนื้อหาทั้งหมด ส่วนที่เป็นเนื้อหาหลักและส่วนท้ายบทสรุปที่ควรมีข้อคิดให้ผู้อ่านเสมอ

3. การมีลิ้งค์เชื่อมโยงจากเว็บไซต์ภายนอก กรณีนี้อาจเรียกว่าเป็น off-page SEO คือ ไม่ได้เป็นเนื้อหาที่คุณผลิตเองโดยตรง แต่อาศัยการเชื่อมโยงลิงค์กับเว็บไซต์ภายนอกที่มีเนื้อหาดี เป็นประโยชน์ มีความเกี่ยวพันกัน หรืออาจเป็นกรณีที่คุณไปตอบคำถาม หรือแสดงความคิดเห็นใน web board ในโลกออนไลน์ที่ใด ๆ ทั้งไทยและต่างประเทศ โดยแนบ link มาสู่เว็บไซต์หลักของแบรนด์คุณ ซึ่งวิธีการนี้เป็นเทคนิคที่ดีและมีคุณค่าต่อผู้ติดตาม ทำให้มีโอกาสในการขายสินค้าและบริการในระยะยาวอย่างมาก

4. การควบคุมคุณภาพของความรวดเร็วฉับไวในการ download ข้อมูล รูปภาพสินค้า และลด error ในการเชื่อมโยงข้อมูลไปหน้าเพจต่าง ๆ ในส่วนนี้ต้องขึ้นกับ host ที่คุณเลือกทำสัญญารายปีที่ต้องมีทีมงาน โปรแกรมเมอร์ ช่างเทคนิค software และคุณสมบัติของ server ที่มีสเปคตอบโจทย์การใช้งานในธุรกิจคุณ

5. การมีความทันสมัยและมีการออกแบบที่ใช้งานง่าย แม้บนหน้าจอ smartphone ซึ่งเป็นรูปแบบการใช้งานซื้อสินค้าและบริการออนไลน์ของคนส่วนใหญ่ทั่วโลก เนื่องจากพฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีของผู้คนเปลี่ยนแปลงไป การใช้โทรศัพท์มือถือเกิดได้ทุกที่ ทั้งขณะเดินทางบนรถไฟฟ้า นั่งเรือ ช้อปปิ้งในห้างสรรพสินค้า ฯลฯ หากคุณไม่ทำเว็บไซต์ SEO ที่ใช้งานง่ายบนมือถือ ก็เท่ากับเสียโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มคนเป้าหมายไปเกินครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว

เว็บไซต์ขายของออนไลน์ ทำไมต้องทำ SEO

การทำเว็บไซต์ SEO ในปี 2019 จึงต้องใส่ใจในคุณภาพของเนื้อหา การปรับโครงสร้างให้มีความทันสมัย และตอบโจทย์การใช้งานจริงของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของคุณ จึงจะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ให้ประสิทธิภาพดีทั้งในด้านยอดขายและผู้ติดตาม