SEO และ Google Ads เหมือนหรือต่างกันอย่างไร

เหมือนหรือต่างกันอย่างไร
SEO และ Google Ads เหมือนหรือต่างกันอย่างไร

หลายคนที่เพิ่งเริ่มทำธุรกิจบนเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มออนไลน์มักจะมีคำถามว่าการทำ “SEO” และ “Google Ads” นั้นต่างกันอย่างไร เนื่องจากทั้งสองรูปแบบล้วนเป็นกิจกรรมออนไลน์ที่มีเป้าหมายในการดันเว็บไซต์ของเราให้ขึ้นไปติดอันดับหน้าแรก ๆ ของการค้นหาใน Search Engine โดยเฉพาะ Google ที่เรามักพบเห็นได้ทั่วไป แถมบางคนก็สับสนถึงขนาดคิดว่าทั้ง “SEO” และ “Google Ads” นั้นเป็นอย่างเดียวกันอีกต่างหาก ดังนั้น วันนี้เราจะมาลองเปรียบเทียบถึงวิธีดันเว็บไซต์ทั้งสองวิธีนี้ พร้อมดูข้อดีและข้อด้อยของทั้งคู่กัน

1.“SEO” อธิบายง่าย ๆ คือ การใช้เทคนิคใส่ “คำ” หรือ “คีย์เวิร์ด” ที่ผู้ใช้งานมักค้นหาบ่อย ๆ ผ่านการผลิตเนื้อหา “คอนเทนต์” เพื่อดันให้ระบบ “อัลกอริทึม” (Algorithm) ของ Google ที่คอยทำหน้าที่จัดลำดับและแสดงผลการค้นหาที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้งานมากที่สุด จัดให้เว็บไซต์หรือคอนเทนต์ของเราปรากฏอยู่ในหน้าแรก ๆ ของการค้นหา ส่วนใหญ่มักอาศัยประสบการณ์ ความชำนาญ และทักษะด้านการเขียนพอสมควร โดยข้อดีของการทำ SEO คือ ไม่เสียเงิน เพราะเป็นการใช้เทคนิคและความคุ้นเคยที่เรามีต่อระบบอัลกอริทึม ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงคำหรือคีย์เวิร์ดที่ผู้ใช้งานค้นหาใน Google นั่นเอง แถมยังช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้ใช้งานเห็นเว็บไซต์หรือคอนเทนต์ของเรามากขึ้นด้วย แต่ข้อเสียคือไม่สามารถการันตีได้ว่าจะได้ผลตามที่ต้องการเสมอไป โดยเฉพาะคำหรือคีย์เวิร์ดที่มีการใช้กันแพร่หลาย ทำให้การแข่งขันทำ SEO สูงและซ้ำซ้อนกันมาก ยิ่งหากคอนเทนต์ของเราไม่มีคุณภาพพอก็อาจจะไม่ปรากฏบนหน้าผลการค้นหาเลยก็ได้

2.“Google Ads” คือ การซื้อโฆษณากับทาง Google เพื่อให้เว็บไซต์หรือคอนเทนต์ของเราปรากฏอยู่หน้าแรกบริเวณช่องโฆษณาในหน้าค้นหาของผู้ใช้งาน เพียงแค่เราตั้งค่าคำหรือคีย์เวิร์ดที่เราต้องการ Google ก็จะยิงโฆษณาไปปรากฏที่ด้านบนของการค้นหา เรียกว่า Paid Search โดย “ข้อดี” ของ Google Ads คือ การันตีได้ว่าเว็บไซต์หรือคอนเทนต์ของเราจะปรากฏอยู่ในหน้าแรกของการค้นหาแน่นอน ทำให้มีโอกาสสูงที่จะมีผู้สนใจเข้ามาซื้อสินค้าหรือบริการของเรา แถมยังกำหนมกลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจนเพื่อให้ตรงกับสินค้าหรือบริการของเราอีกด้วย ส่วนข้อเสียคือเสียเงินค่อนข้างสูง แถมการแข่งขันยิงโฆษณาก็มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ใช่ว่าเมื่อจ่ายเงินแล้วจะได้อันดับดีเสมอไป ทำให้ก่อนจะตัดสินใจซื้อโฆษณา จะต้องศึกษาเรื่องการตลาดและกลุ่มผู้บริโภคอย่างถ่องแท้เสียก่อน

อย่างไรก็ตาม ทั้ง “SEO” และ “Google Ads” ต่างก็เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้การทำธุรกิจออนไลน์ประสบความสำเร็จได้ ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้งานตามความเหมาะสม รวมถึงการวางแผนอย่างรอบด้าน ทุกธุรกิจควรใช้เครื่องมือทั้งสองอย่างนี้ โดยมี SEO เป็นพื้นฐานและใช้ Google Ads กระตุ้นยอดผู้ชมเป็นครั้งคราวไปหรือต่อเนื่องในช่วงเวลาหนึ่ง เช่น เทศกาลที่มีคนจับจ่ายหาซื้อของขวัญ หรือเมื่อมีสินค้าออกใหม่ หรือมีโปรโมชันพิเศษ เป็นต้น