การทำ SEO บน Facebook ให้ได้ผลจริง

ทำอันดับ Facebook

หลายๆคนมองข้ามการทำ SEO ในเฟสบุ๊ค มุ่งแต่ไปทำกันในเว็บ แต่สำหรับมือใหม่ที่หัดทำ SEO หรือ คนที่ค้าขายออนไลน์เราอยากบอกว่าคุณสามารถใช้ Facebook ในการทำ SEO ได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีเว็บไซด์สำหรับขายของหรือไว้เป็นช่องทางติดต่อสำหรับคนที่มีทุนน้อยๆหรือเพิ่งเริ่มหัดค้าขายหัดทำ SEO

การทำ SEO ใน Facebook นั้นก็ไม่ยากเท่าไหร่ใครๆก็สามารถทำได้หรือเริ่มหัดทำได้ก่อนอื่นก็เริ่มจากการสมัครเฟสบุ๊คก่อนซึ่งตรงนี้คงไม่ต้องบอกนะว่าทำแบบไหน ต่อมาเราก็เริ่มทำเพจ โดยการตั้งชื่อเพจให้สอดคล้องกับสินค้าหรือบริการที่เราต้องการหรือใช้ชื่อที่สอดคล้องกับคีย์เวิร์ด หรือ นำคีย์เวิร์ดมาตั้งชื่อเพจเลยก็ได้ และจะให้ดีควรสร้างยูสเซอร์ใหม่ในการสมัครและชื่อที่ใช้สร้างยูสเซอร์แนะนำเลยว่าให้สอดคล้องกับเพจด้วยจะดีมากๆ ต่อมาคือเลือกหมวดหมู่ของเพจให้ถูกต้องหรือสอดคล้องกับเพจของเราเช่นหากเราทำเพจฟุตบอล ก็ควรเลือก เป็นแนวฟุตบอล เป็นต้นเพราะแต่ละหมวดในเฟสบุ๊คมันมีเงื่อนไขไม่เหมือนกัน เมื่อเรากำหนดค่าต่างๆได้แล้วก็เป็นอันเสร็จและเมื่อเพจเราถูกสร้างขึ้นมาแล้วทีนี้เราก็มาดูกันว่าจะทำ SEO กับมันอย่างไร

เริ่มทำอันดับให้แฟนเพจกันได้แล้ว

แชร์มันออกไปให้คนกลับมาติดตามหรือมากด like ให้เพจเราแน่นอนว่าก่อนจะแชร์ไปนั้นเราควรมีข้อมูลในเพจเสียก่อน ไม่ต้องรีบ สร้างเพจเสร็จก็เช็คการตั้งค่าต่างๆให้ละเอียดเช่น แทคต่างๆที่จะเป็นคีย์เวิร์ด ปรับแต่งข้อมูลให้เพจมีจำนวนเพียงพอสักหน่อยก่อนจะแชร์ มองหากลุ่มเป้าหมายก่อนเริ่มแชร์ ดูแนวทางเพจในลักษณะเดียวกันเพื่อนำมาต่อยอดให้กับเพจเรา คอนเทนต์ในเพจควรสดใหม่และมีคีย์เวิร์ด และ แทคตามที่เรากำหนดไว้ในการตั้งค่า เพื่อให้เมื่อมีการค้นหาใน Google มันจะวิ่งมาพบที่เพจเราด้วย และคอนเทนต์สำหรับการทำ SEO ในเฟสบุ๊คนั้นควรมีปริมาณที่พอดีเช่น 5-7 บรรทัด เพราะคนในเฟสบุ๊คนั้นไม่นิยมอ่านอะไรยาวๆ ไม่นิยมการคลิ๊กคำว่า อ่านต่อ ควรจัดคอนเทนต์ให้กระชับมีคีย์เวิร์ด มีแทค และอ่านแล้วรู้เรื่องมีสรุปในตัวมันเอง และเนื้อหาควรสอดคล้องกับชื่อเพจ และควรมีรูปเพื่อดึงดูดความสนใจ หรืออาจมีคลิปประกอบคอนเทนต์นั้นๆ

ที่สำคัญคือต้องสร้างความสัมพันธ์กับคนในเพจ หรือ ตอนแรกๆเพจอาจจะยังไม่มีคนเข้ามาพูดคุย เราก็สร้างยูสเซอร์อื่นๆเข้ามาคอนเม้นท์ตอบโต้ เพื่อให้มีการเคลื่อนไหว แต่ไม่แนะนำให้ซื้อไลค์หรือปั๊มไลค์เพราะมันไม่ตรงเป้าหมายไม่มีการสัมพันธ์แบบธรรมชาติ และมันจะดูเป็นเพจไม่มีคุณภาพ การทำแบบธรรมชาติ ค่อยเป็นค่อยไปจะทำให้ SEO สำหรับ Facebook ประสบผลสำเร็จ และต่อยอดไปถึงการทำเว็บไซด์ได้สำหรับคนที่เริ่มต้นทำ SEO จากเฟสบุ๊คหรือขายของในเฟสบุ๊คก่อนมีเว็บไซด์เป็นของตัวเอง และที่สำคัญคือมันไม่ยากเราสามารถหัดทำจากตรงนี้ได้และค่อยๆทำความเข้าใจกับมันจนต่อยอดไปสู่สิ่งที่ยากกว่าได้นั่นเอง

การจะหาพนักงาน SEO ที่ดี ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยนะในเวลานี้

จ้างาน SEO

ความรู้เข้าถึงกลุ่มคนมากขึ้นด้วยอินเตอร์เน็ต เดี๋ยวนี้การจะหาความรู้เกี่ยวกับ SEO มันง่ายนิดเดียวทั้งเว็บไซต์ในประเทศไทยและเว็บไซต์ต่างประเทศ มือใหม่ที่เข้ามาทำไม่นานไม่จำเป็นต้องถึงปีก็สามารถ ทำอันดับเว็บไซต์ใน Google ได้เองแล้วขอเพียงมีความตั้งใจ มุ่งมั่นและทดลองวิธีการทำงานอยู่ตลอดเวลา ในทางกลับกัน สำหรับบริษัทใหญ่ที่ต้องการพนักงานเกี่ยวกับด้าน การทำ SEO สมัยนี้ก็ยากที่จะหาพนักงานที่ดีและตั้งใจทำงานให้เรา ส่วนใหญ่เมื่อผ่านไปสักปีสองปี พนักงาน SEO คนนั้นเค้าเริ่มเก่ง ก็จะมีโอกาสหนีออกไปทำเว็บส่วนตัวเพราะคุ้มกว่าเงินเดือน เป็นแบบนี้เยอะมากในปัจจุบัน

นี่คือเรื่องสำคัญที่บริษัทจะต้องใส่ใจเรื่องนี้ เพราะการหาพนักงานเอสอีโอคนใหม่เข้ามาทำแทนที่คนเก่ามันไม่ใช่ว่าจะทำต่อเนื่องกันได้แบบง่ายดาย การทำ seo นั้นจะต้องมานั่งแกะข้อมูลว่าคนเก่าเขาได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง ถ้าคนเก่าทำ Offpage ไว้เยอะเหมือนของเว็บไซต์ 928BET ก็คงปวดหัวไม่น้อยในการแก้ เรื่องนี้บางทีก็จะมีทั้งบอกข้อมูลทั้งหมด และไม่บอกข้อมูลให้พนักงานใหม่ก็มีเหมือนกัน ต้องค่อยๆแกะข้อมูลเอาเอง กลุ่มหลังนี่แหละที่จะทำให้เว็บไซต์บริษัทใหญ่มีปัญหาในการเติบโตเพราะต้องมานั่งดูพื้นฐานว่าอดีตเคยทำอะไรมาบ้าง

ทางที่ดีหากจ้างมาดูแลเว็บไซต์ หากเป็นเนื้อหาเยอะ เว็บขนาดใหญ่ ก็ควรจัดสรรปันส่วนเรื่องของรายได้พนักงานให้เหมาะสม อาจจะเป็นการขึ้นเงินเดือน การแบ่งสัดส่วนเปอร์เซ็นต์ยอดขายก็แล้วแต่ เพราะการทำ SEO เปรียบเหมือนนักการตลาดที่เขาสามารถหาลูกค้าให้กับเราได้ เมื่อเขารู้สึกว่าเขาทำเองแล้วคุ้มกว่า เขาก็จำเป็นต้องออกไปทำส่วนตัวนั่นแหละ การจะหาคนเก่วมาร่วมงานนั้นยาก แต่การรักษาคนเก่งนั้นยากกว่า ก่อนจะตัดสินใจจ้างงานส่วนนี้อย่าลืมวางแผนให้ดี ไม่งั้นอาจต้องเสียคนเก่งๆหลุดมือไปในที่สุด

ทำ SEO สมัยนี้ต้องวัดที่ผลงานไม่ใช่คำพูด

พนักงาน SEO ที่ดี

นับวันรูปแบบพฤติกรรมผู้ใช้ย่อมเปลี่ยนไปเรื่อย จากเมื่อก่อนนี้ นิยมค้นหาผ่าน Google มากขึ้นปัจจุบันเริ่มหนีไปมีการค้นหาผ่านแอพบนมือถือกันเยอะแล้ว แน่นอนว่าตั้งแต่ซีอีโอคนใหม่ของ Google ได้เข้ามา รูปแบบของการคำนวนอันดับก็จะเปลี่ยนแปลงไป คนไหนที่เคยมีฝีมือเลยในอดีตในเรื่องของการทำอันดับ ปัจจุบันอาจจะทำไม่เป็นแล้วก็ได้ หากว่าผู้อ่านเป็นเจ้าของกิจการหรือเจ้าของบริษัทใด มีความสำคัญอย่างมากที่จะต้องรู้จักคัดสรรพนักงานในฝ่ายของ SEO ให้ดีไม่เช่นนั้นเว็บไซต์บริษัทของเราอาจจะเสียชื่อเสียงได้ทั้งในเรื่องของอันดับที่หายหรือการเอาเว็บไซต์ของบริษัทไปสแปมตามเว็บบอร์ดต่างๆเพื่อทำเป็นแหล่งแบคลิ้งค์ ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง นัก seo บางคนยังคงใช้วิธีนี้อยู่

หาบริษัทใหม่มีพนักงาน seo ที่ดี มีความเข้าใจในหลักการของอัลกอริทึมแต่ละช่วงแต่ละปี บริษัทนั้นย่อมมีเคสเสียบในเรื่องของการตลาด marketing search engine อย่างแน่นอน การจะหาใครสักคนที่มีฝีมือและอยู่กับเราทำงานด้วยใจไม่ใช่เห็นแก่ตัว เราจำเป็นที่จะต้องให้อิสระในระดับหนึ่งที่ควรจะเป็นกับเขา หลายบริษัทพยายามกดดันพนักงานเอสอีโอให้รีบทำอันดับเพื่อจะหวังยอดเร็ว การกระทำอันดับได้อย่างรวดเร็ว นั้นมีเพียงสิ่งเดียวก็คือการทำแบบ Black Hat หรือก็คือเป็นการทำอันดับสายดำจะมีผลเสียตามมาเยอะแน่นอน พนักงานที่ดีมักจะพยายามอธิบายให้เจ้านายเข้าใจเรื่องของการทำอันดับว่ามันจะมีการใช้เวลามันมีกลไกของมันอยู่แต่ก็ไม่ใช่ว่าเสียเวลาทำสองปีแล้วยังไม่เห็นผล อันนั้นก็เกินไป มันจะมีจุดสมดุลย์ของการทำอันดับอยู่

หากว่าเราเป็นเจ้านายที่ดีก็ควรจะรับฟังพนักงานในส่วนนี้หรือให้เวลาและอิสระในการทำแก่เขา อาจตั้งเป้าการวัดผลซักสามถึงหกเดือนเป็นอย่างเร็ว หากว่าเค้าทำเป็น เค้าทำได้ ธรรมดาจะต้องมีผลงานให้เจ้านายเห็นบางอย่างแน่นอน หากผ่านไปหกเดือนแล้วยังไม่มีผลอะไรเลย นั่นแปลว่าเขาไม่เข้าใจ SEO จำเป็นได้จะต้องเปลี่ยนพนักงาน นี่คือข้อสำคัญในการเลือกพนักงาน SEO ที่ดีให้เข้ามาร่วมงานกับเราเพื่อต่อยอดให้ธุรกิจของเราได้เติบโตก้าวหน้าอย่างมั่นคง เจอคนดีธุรกิจดีตามไปด้วยเจอคนไม่ดีธุรกิจก็อาจจะแย่ไปด้วย เราเป็นผู้จ้างต้องรู้จักเลือกรู้จักมองเพื่อไม่เกิดผลเสียต่อกิจการของเรา

FIFA55 คีย์ SEO มาแรงในปี 2017

FIFA55

เรื่องของคีย์เวิร์ด SEO มันจะมีการเปลี่ยนแปลงในแต่ละช่วง ต้องแยกก่อนว่าคีย์เวิร์ดในการทำ SEO นั้นจะมี 2 กลุ่ม นั่นคือ SEO ในฉบับที่เป็นคีย์ทั่วไป ไม่ได้เจาะจงเป็นชื่อแบรนด์สินค้าหรือชื่อบริษัท แต่เป็นคีย์ที่คนทั่วๆไปมีการค้นหา คีย์เวิร์ดกลุ่มนี้จะสามารถทำเงินได้เรื่อยๆ แต่อาจจะไม่ได้เงินไว้เท่ากับคีย์เวิร์ดที่เป็นชื่อแบรนด์โดยตรง แถมการทำคีย์เวิร์ดแบบเป็นกลางมักจะมีปริมาณคู่แข่งสูงกว่าการแข่งคีย์เฉพาะอีกด้วย อย่างเช่น แทงบอลออนไลน์, พนันบอลออนไลน์, ทีเด็ดบอล อะไรแนวๆนี้ถือว่าเป็นคีย์กลุ่มทั่วไปไม่ได้เจาะจงเป้าหมายใดเป้าหมายหนึ่ง สามารถทำเงินได้ตลอดทั้งปี แต่อาจไม่เท่าคีย์เวิร์ดกระแสเท่านั้นเอง

สำหรับปีนี้ คีย์เวิร์ดที่น่าสนใจในวงการเดิมพันกีฬาบ้านเราคงต้องขอยกให้ FIFA55 เป็นเว็บพนันบอลแนวใหม่ที่เปิดให้เล่นช่วงปลายปี 2016 และยังได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปีนี้ กระแสดีไม่มีตก เรื่องของการจ่าย การเบิกถอนกำไรจากเกมเดิมพัน มีความสะดวกรวดเร็ว รวมไปถึงมีผู้ให้บริการที่ติดต่อได้ง่ายสะดวกอยู่เยอะ สังเกตุง่ายๆว่าในปีนี้เวลาเข้าเว็บดูบอลแห่งไหนก็ตาม มักจะเห็นค่ายพนันบอลที่มาลงโฆษณาเป็นของในเครือ FIFA55 เสียส่วนใหญ่ มีจัดโบนัสเต็มที่ให้กับบรรดาสมาชิกหน้าเก่าหน้าใหม่ปนกัน มีเอเย่นต์ผุดขึ้นมาจำนวนมาก ทาง FIFA55 เองต้องการจัดเต็มให้แบรนด์ตัวเองดังในระดับต้นๆของเว็บพนันกีฬาในโซนเอเชีย จึงทุ่มโปรโมชั่นมาให้เยอะ ตอนนี้ทางเว็บก็เริ่มอยู่ตัวได้พอสมควรแล้ว คู่ควรที่เหล่านักทำ SEO จะลองเข้าไปงมเล่นกันว่ามันเป็นอย่างไร ยากง่ายแค่ไหน

สำหรับการทำ SEO ในเวลานี้ จะอัดยิงเรื่อง Backlinks ตูมๆอย่างเดียวคงจะมีแต่ผลเสียตามมาแน่นอน ถ้าจะให้ดีคือให้เว็บค่อยๆต่อแบบช้าๆอย่างมั่นคง แบบการทำฟีฟ่าห้าห้าก็ต้องค่อยๆไต้ระดับไปเรื่อยๆ หากใครเป็นนักทำ SEO สายบอล หรือรับดูแลเว็บแนวๆนี้ สามารถลองทดสอบดูถึงความยากได้เช่นเดียวกัน

วงการ SEO หน้าเก่าเลิกไป หน้าใหม่เข้ามาแทน

SEO รูปแบบใหม่

เป็นเรื่องธรรมดาในการทำธุรกิจทุกรูปแบบ หากเราไม่สามารถที่จะสร้างกำไรจากสิ่งเหล่านั้นได้ หรือเคยสร้างได้ในอดีต แต่ปัจจุบันขาดทุนย่อยยับอยู่ตลอด ท้ายที่สุดก็ต้องเลิกกิจการเหล่านั้นทิ้งไปเพื่อประคองตัวเองไม่ให้บาดเจ็บในธุรกิจที่ขาดทุนไปมากกว่าเดิม สำหรับวงการ SEO เราย่อมรู้ดีกว่าเราไม่สามารถควบคุมปัจจัยการคำนวนอันดับได้เลย ทุกอย่างขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ Search Engine ทั้งหมด เราซึ่งเป็นผู้เล่นในสนาม ย่อมทำได้แต่การทดลองผิดลองถูก เพื่อเสาะหาว่าวิธีไหนจะทำอันดับได้ เพื่อทำกำไรในตลาดนี้ คนที่เคยประสบความสำเร็จในอดีตไม่ได้แปลว่าจะประสบความสำเร็จต่อไปในปัจจุบัน เราเห็นอยู่ประจำที่เซียน SEO หลายคน เมื่อถึงจุดนึง ส่วนใหญ่ก็มักจะอำลาวงการนี้ไปทำธุรกิจอื่นแทน เพราะเขาไม่สามารถทำให้เว็บติดหน้าแรกได้เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว Search Engine มีการปรับเปลี่ยนตัวแปรที่ใช้คำนวนอันดับ หากอยากจะอยู่ในวงการนี้ต่อไปก็ต้องมาศึกษาทดลองกันใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่คนที่เป็นเซียนหรือเริ่มมีอายุแล้วมักจะขี้เกียจหาความรู้ใหม่และเชื่อในฝีมือตัวเองจนเกินไป ท้ายที่สุด กว่าจะรู้ตัวกว่าวิธีที่ทำใช้ไม่ได้ผลก็เสียเวลาไปมากมายจนท้อใจและอำลาจากวงการ SEO ไป

แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเป็นแบบนี้ ยังคงมีเซียนหลายคนที่พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ วิธีเดิมใช้ไม่ได้ผล ก็นั่งทดลองเสาะหาวิธีใหม่ๆให้เว็บไซต์กลับไปติดอันดับได้ คนกลุ่มนี้จะมีไม่เยอะ เขาจะมีความต้องการกลับมาเก่งเรื่อง SEO อีกครั้ง เพราะรู้ดีว่า หากเราพลาดไป 10 ครั้ง หรือเสียเวลาทำไป 1 ปี จนพบวิธีการทำอันดับ หากเว็บกลับมาติดอันดับหน้าแรกสัก Top 1-3 ในคีย์เวิร์ดทำเงินที่เรากรองมาอย่างดี มันย่อมชดเชยเวลาที่ทดลองมาเป็นปีได้ทั้งหมด แต่ก็อย่างที่รู้กัน ไม่มีอะไรมาการันตีว่าการทดลองนานๆจะเจอหนทางทำอันดับรูปแบบใหม่อีกครั้ง เราจึงต้องมีความเชื่อมั่นในตัวเองเพื่อใช้เป็นแรงผลักให้ตัวเราไม่ล้มเลิกไปกลางคันเสียก่อน

นอกจากคนเก่าๆในวงการ SEO จะมีเลิกไปเยอะ และมีทำต่อเนื่อง ยังมีกลุ่มคนหน้าใหม่ที่อยากจะประสบความสำเร็จในการทำอันดับเข้ามาอยู่เรื่อยๆ บางคนอาจไปซื้อหนังสือ SEO มาอ่านแล้วรู้สึกว่ามันง่าย เลยกะว่าจะยึด SEO นี่แหละเป็นอาชีพเลี้ยงครอบครัว บางคนก็อาจต้องการให้กิจการเติบโตในด้านตลาดออนไลน์ อยากจะบอกว่า หนังสือสอน SEO ทั้งหลายในร้านหนังสือบ้านเรา เท่าที่อ่านมามักจะสอนเรื่องพื้นฐานเกินไป ยังมีอีกหลายข้อมูลสำคัญที่หนังสือเหล่านั้นไม่ได้สอนไว้ พอคนใหม่ที่คิดว่ามันง่ายได้ลองเข้ามาทำเอง ก็จะพบว่าสิ่งที่เขาคิดมันไม่ใช่ การทำ SEO มันไม่ได้ง่ายดายอะไรขนาดนั้น แถมยังต้องปรับตัวให้ตามอัลกอริทึ่มที่อัพเดทอยู่เป็นประจำอีกด้วย สุดท้ายคนที่ใจฝ่อง่ายก็จะล้มเลิกออกจากวงการนี้ไป เหลือไว้แต่ คนที่มีความฝันและแรงผลักดัน

ที่ปรึกษา SEO ไม่จำเป็นเท่าพลังใจของตนเอง

เราอาจไม่จำเป็นต้องมีเพื่อนคู่คิดในเรื่องของการทำ SEO ก็ได้ เราไม่จำเป็นต้องไปอบรบประชุมคอร์สสอน SEO ที่ไหน เดี๋ยวนี้ข้อมูลฟรีที่เราสามารถศึกษาได้ก็เยอะเต็มอินเตอร์เน็ตไปหมดแล้ว อยู่ที่ว่าเราเลือกที่จะศึกษาความรู้ใหม่ๆหรือจะยืดติดกับวิธีการทำ SEO แบบเดิมๆ แน่นอนว่าถ้าไม่หาความรู้ใหม่เข้าหัว เราก็จะต้องพบความล้มเหลวในที่สุด เปรียบเหมือนกลุ่มเซียนที่โกยเงินได้เยอะในตลาดนี้ แต่ไม่รู้จักปรับตัว สุดท้ายก็ต้องเลิกไป หากอยากประสบความสำเร็จจริงๆ ต้องหมั่นฝึกให้จิตใจเรามีความแน่วแน่ มีความอดทนและหมั่นเรียนรู้พัฒนาตนเองอยู่ตลอด หากจิตใจเรามีความอดทนต่อความล้มเหลวได้สูง มีแรงผลักดันให้ขยันเรียนรู้สิ่งใหม่ๆมากขึ้น มันย่อมเป็นตัวนำพาให้เราประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน ไม่ใช่แค่เฉพาะเรื่อง SEO เท่านั้น แต่เราจะมีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่าคนใจฝ่อง่ายในทุกธุรกิจเลย ส่วนถ้ามีพลังใจดีแล้ว การหาที่ปรึกษาไว้แลกเปลี่ยนความรู้กันก็ถือเป็นสิ่งที่ดี ที่ปรึกษาที่ดีจะช่วยให้เราถึงฝันได้ไวยิ่งขึ้น

คิดจะหาที่ปรึกษา SEO สักคน ต้องเลือกให้ดี

มองหาที่ปรึกษา SEO

ในการหาที่ปรึกษาสักคนเป็นเพื่อนคู่คิด ไม่ว่าธุรกิจอะไรก็ตามก็จำเป็นต้องรู้ก่อนว่าที่ปรึกษาคนนั้นมีความเข้าใจในเรื่องนั้นๆมากน้อยแค่ไหน หากเราทำบริษัทเกี่ยวกับรับเหมาก่อสร้าง หากมีที่ปรึกษาเป็นคนที่ถนัดด้านการคำนวนต้นทุนวัสดุที่ใช้ก่อสร้าง มีความรู้และประเมินราคารับเหมาเบื้องต้นได้ มันก็ย่อมเป็นเรื่องที่ดีกว่ามีที่ปรึกษาเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ เพราะไม่ได้เกี่ยวข้องกับธุรกิจของเราเลย มีแต่จะคุยกันไม่รู้เรื่อง เสียเงินค่าที่ปรึกษาปล่าวๆ หรือหากเขายินดีให้คำปรึกษาฟรี แม้จะมีความหวังดีเป็นที่ตั้ง แต่ก็อาจพาธุรกิจของเราเจ๊งไม่เป็นท่าได้

ในเรื่องของกระบวนการทำ Search Engine Optimization ก็เช่นเดียวกัน หากเราไม่ดูพื้นฐานของคนที่จะเข้าไปขอคำปรึกษาให้ดีเสียก่อน บางทีเขาอาจขี้โม้ให้เราฟัง ฟังแล้วเราไปทำตาม พอทำเสร็จเว็บหายจากระบบค้นหา แล้วแบบนี้จะไปโทษใคร จะโทษคนที่เราไปขอคำปรึกษาก็ไม่ถูก เพราะเราเลือกไปถามเขาเอง หากไม่ต้องการให้สภาวะแบบนั้นเกิดขึ้นกับเว็บไซต์กิจการของเรา ก่อนจะหาบัดดี้คู่คิดไว้คอยแลกเปลี่ยนมุมมองการทำ SEO ไว้สักคน เราก็ควรจะดูพื้นฐานความสามารถของเขาคนนั้นเสียก่อน เขาเคยทำเว็บไซต์ติดหน้าแรกของผลการค้นหามาเยอะแค่ไหน เว็บที่ทำแล้วหายมีหรือไม่ เป็นคนขี้โม้ไปวันๆหรือมีความสามารถจริง และข้อสำคัญเลยก็คือ เขาพร้อมแบ่งปันข้อมูลที่ถูกต้องให้กับเราหรือปล่าว ข้อนี้จะสำคัญมากเพราะต่อให้เก่งแค่ไหนถ้าเขาไม่อยากบอกเรามันก็เท่านั้น ยิ่งไปกวนใจเขาบ่อยๆ ดีไม่ดีอาจจะเจอสวนกลับมา ไม่ก็หลอกให้ไปทำวิธีที่ไม่ได้ผลแทนเพราะเราไปกวนใจมากจนเขาเกิดความรำคาญอะไรแบบนี้

มรรยาทในการขอคำปรึกษา SEO

ข้อมูลที่เราจะรู้ได้ว่าใครเข้าใจจริงหรือไม่เข้าใจในเรื่อง SEO เราไม่ควรจะไปถามเขาว่า “ไงพี่.. ได้ข่าวว่าพี่เก่ง SEO หรอ.. ขอดูผลงานหน่อยสิ.. ถ้าพี่มีผลงานผมจะขอคำปรึกษานะ..” แม้แต่ตัวผมเองถ้าเจอถามมาแบบนี้ผมก็จะเงียบไม่ตอบ หากยังทักแนวๆนี้มาไม่เลิกก็อาจจะบล็อกเฟสบุ๊คคนนั้นไปเลย เราจะขอข้อมูลจากใครก็ควรทำในระดับที่มีมรรยาท หากเราติดตามผลงานของนัก SEO คนไหนมาสักระยะ เราก็จะพอทราบเองว่าใครที่พอจะให้คำปรึกษากับเราได้ คนใจดีในวงการ SEO นั้นมีมาก แต่ต้องรู้จักถามโดยใช้ประโยคที่เหมาะสม พื้นฐานมนุษย์ย่อมอยากที่จะแบ่งปันอยู่แล้ว หากตนเองไม่ได้เสียผลประโยชน์มากมายนัก หากเราเจอคนรู้ใจไว้แลกเปลี่ยนมุมมอง ก็ควรแบ่งปันความรู้ที่ตนเองมีอยู่ให้กับผู้อื่นตอบแทนด้วย หรืออย่างน้อยที่สุดก็ควรจะขอบคุณผู้ที่ให้คำปรึกษาเราเพื่อเป็นการรักษามรรยาทที่ดี

ไม่ว่าเราจะถามมหาเทพเซียน SEO ของไทยหรือของต่างประเทศ เราจะไม่มีทางรู้จริงได้เลยหากขาดการนำไปทดลอง ผมเคยเจอกลุ่มคนที่อารมณ์แบบว่า มาขอความรู้ แล้วพอได้ก็เอาไปเขียน E-Book ขายซะงั้น คือมันก็เป็นสิทธิของเขาเพราะเราให้ข้อมูลด้วยใจเอง แต่มันผิดหลักความเหมาะสม ที่สำคัญคือ ความรู้ที่ได้ไปยังไม่ได้ลองใช้เองจริง แต่เอามาเขียนขายหาเงินเข้ากระเป๋าเลย แล้วแบบนี้เวลามีคนซื้อติดปัญหาบางจุดจะตอบเขาได้หรอ สุดท้ายก็ย้อนมาถามผมอีกอยู่ดีนี่นา กลายเป็นทำคุณแต่ได้บาป บาปเพราะคนที่เราแนะนำข้อมูลไป เขาเสือกไปหลอกแดกเงินคนอื่นโดยที่ตนเองก็มีแค่ความรู้ แต่ไม่ได้รู้จริง รู้จริงจะเกิดได้ก็ต่อเมื่อทดลองทำเองเท่านั้น หลังๆผมก็ไม่ค่อยได้ตอบข้อมูลมากนักหากเป็นคนที่เคยมีประวัติเสียเรื่องแบบนี้มา เพราะไม่รู้ว่าจะมาดีหรือร้าย เพื่อที่จะสร้างสังคมที่ดีในวงการ SEO เราก็ต้องทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีด้วย มอบสิ่งดีๆให้กับคนรอบตัว ถึงแม้จะไม่ได้ผลลัพธ์กลับมาเป็นตัวเงิน แต่ก็ได้กลับมาเป็นสภาวะจิตใจที่สูงขึ้นกว่าแต่ก่อนแน่นอน ทำดีหวังผลใครๆก็ทำได้ แต่ทำดีไม่หวังอะไรใครเล่าจะทำได้สม่ำเสมอ หากเราทำได้ก็แปลว่าเรามีจิตใจที่ยกสูงกว่าเพื่อนๆคนอื่น มาเริ่มฝึกนิสัยให้รู้จักแบ่งปันกันเถอะ

จุดเริ่มต้นของการสร้างเว็บรับปรึกษา SEO

จุดเริ่มต้นของ SEO

หากมองย้อนไปสักช่วงปี พ.ศ. 2552 ตัวผู้เขียนเองได้เริ่มต้นเข้าสู่วงการหารายได้ทางอินเตอร์เน็ต ฝึกหัดหาเงินออนไลน์มาตั้งแต่พวกเว็บคลิกได้เงิน นั่งคลิกทั้งวันได้มา $0.5 ตกเป็นเงินไทยประมาณ 20 บาทจากการนั่งคลิกทั้งวัน แต่แล้วก็พบว่า เอ๊ะ.. วิธีนี้มันคงไม่เหมาะเท่าไหร่ เหมือนชีวิตขาดทุนหนักลงทุกวันๆเพราะเราต้องมานั่งคลิก น่าเบื่อและเงินน้อยอีก บางทีก็เจอเว็บไซต์โกงเงินไม่จ่าย ต่อมาก็เริ่มหัดทำเว็บและงานออนไลน์อีกหลายรูปแบบมากจนมาพบกับเรื่องราวของ SEO ซึ่งการทำ SEO มันเป็นคำตอบที่แท้จริงในการหารายได้ออนไลน์ หากเราได้ทำการบ้านวิเคราะห์คีย์เวิร์ดมาอย่างดีแล้วว่าคีย์เวิร์นี้แหละที่จะทำเงินให้เรา หากเว็บไซต์ของเราขึ้นไปติดอยู่หน้าแรกของผลการค้นหา อาจจะอยู่ช่วง 1-3 อันดับแรก เป็นไปได้ยากมากที่เราจะไม่มีลูกค้าเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ

เรื่องของเรื่องคือ ตอนแรกผู้เขียนเองก็ยังงูๆปลาๆอยู่เหมือนกัน ไม่รู้หรอกว่าการที่เว็บของเราไปติดอันดับแรกๆของการค้นหาจะทำให้มีลูกค้าเข้ามามากขึ้น แต่มันมีอยู่ช่วงนึงที่การโพสเว็บบอร์ดนอกจากจะโพสหาลูกค้าได้ ยังช่วยทำอันดับบน Google ได้ไปในตัวด้วย ตอนนั้นเองผู้เขียนไม่ได้ใส่ใจเรื่องของอันดับบนเว็บค้นหา แค่หวังหาลูกค้าจากเว็บบอร์ดซื้อขายต่างๆไปวันๆ แต่อยู่ๆก็มีลูกค้าเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตอนแรกคิดว่ามาจากเว็บบอร์ด ลองสุ่มสอบถามลูกค้าที่ติดต่อเข้ามาว่าหาข้อมูลมาจากไหน ส่วนใหญ่จะตอบว่า “เจอใน Google” ทำให้อึ้งอยู่นิดหน่อยแล้วไปหาคีย์เวิร์ดที่ลูกค้าบอกมาว่าพิมพ์คำนี้แล้วเจอ หลังจากนั้นก็เริ่มทำหลายๆคีย์เวิร์ดมากขึ้นในวิธีเดิมจนหน้าเว็บติดหลายคีย์เวิร์ดมาก เรียกว่าเป็นช่วงขาขึ้นก็ว่าได้เลย ทำให้รู้ว่า SEO นี่แหละเป็นคำตอบที่ดีที่สุดในการหาเงินออนไลน์

เมื่อ Google อัพเดทอัลกอริทึ่ม ชีวิตก็เปลี่ยน

หลังจากได้เงินรายวันแน่นๆมาไม่กี่เดือน Google ก็ได้มีการอัพเดทอัลกอริทึ่ม ซึ่งรวมตั้งแต่บอทที่มาเก็บข้อมูลและปัจจัยการคำนวนอันดับ ทำให้เว็บไซต์ตกอันดับจาก Google ร่วงหายไปในพริบตา และไม่มีวี่แววจะกลับมาอีกด้วย วันๆได้แต่หวังว่าเว็บจะกลับมา คิดว่าทาง Google เองคงจะอัพเดทอะไรผิดพลาด แต่การรออยู่เฉยๆไม่ใช่คำตอบ เลยเลือกเข้าร้านหนังสือเพื่อค้นหาหนังสือสอน SEO พอศึกษาได้ที่ก็พบว่า อ้อ ! มันเป็นอย่างนี้นี่เอง Google ไม่ได้อัพเดทอะไรผิดพลาด แต่เป็นเพราะตัวแปรที่ใช้คำนวนเรื่องอันดับได้ให้ความสำคัญของ Backlinks พวกเว็บบอร์ดลดลง และด้วยความที่เราทำเยอะมาก โพสเป็นพันเว็บทุกๆวันซ้ำๆ ยิ่งเข้าข่ายสแปมมากขึ้นไปเรื่อยๆ หลังจากที่เริ่มพอจะเข้าใจก็เกิดอารมณ์กระหายความรู้ ลงเรียนคอร์ส SEO หลายแห่ง ซื้อ E-Book จากกูรูทั้งหลายมาอ่านจนเงินค่าเรียนหมดเกือบแสน แต่ผลสุดท้ายลองกลับมาทำดูมันไม่ได้อันดับดีอย่างที่ควร ที่น่าผิดหวังไปกว่านั้นคือ แต่ละแห่งสอนเหมือนๆกัน แต่เอามาใช้งานจริงในปัจจุบันช่วงนั้นไม่ได้ ผู้สอนเขาคงลืมไปว่า Google มันมีการอัพเดทอยู่ตลอดล่ะมั้ง เลยคิดว่าวิธีเดิมๆจะใช้ได้ผลอยู่

จากเงินที่สูญเสียไปมากและทดลองอย่างหนักแต่ผลลัพธ์ไม่ได้เป็นดังหวัง จึงขอเริ่มนับ 1 ใหม่แบบถอดความรู้ทั้งหลายออกจากหัว แล้วคิดในมุมมองมิติเดียวว่า ถ้าเราเป็นเว็บ Search Engine เราอยากได้เว็บแบบไหนมาติดหน้าแรกล่ะ หากคำตอบคือเว็บที่ถูกใจผู้ใช้งานส่วนมาก เราก็แค่เริ่มต้นทำเว็บที่ถูกใจผู้ใช้งานเท่านั้นเอง ผลลัพธ์ออกมาตามคาด คืออันดับเว็บดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่ไวเหมือนช่วงแรกสมัยโพสเว็บบอร์ด จึงได้ใช้วิชาที่เรียนมาผสมผสานเข้าไป ในเรื่องของการปรับ On Page การรู้ว่าลิงค์แบบไหนควรจะใส่ดี ลิงค์แบบไหนควรเลี่ยงให้ไกล หลังจากพยายามทำและปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เว็บส่วนใหญ่ก็ขยับอันดับดีขึ้นถึงแม้จะไม่ทั้งหมดก็ตาม ทำให้ได้เรียนรู้บทเรียนใหม่ว่า เราจะเซียน SEO ได้ต้องทดลองด้วยตัวเองเท่านั้น และแต่ละช่วง ปัจจัยการทำอันดับย่อยๆก็จะมีการลดค่าความสำคัญไปบางส่วน และบางส่วนก็จะเพิ่มความสำคัญเข้ามาแทนที่ ซึ่งก็แล้วแต่ผู้ให้บริการ Search Engine เจ้านั้นๆว่าจะเอาอะไรมาเป็นปัจจัยคำนวนอันดับบ้าง

ไม่อยากให้พี่น้องวงการ SEO เมืองไทยต้องหมดเงินอย่างศูนย์ปล่าว

หลังจากเสียเงินไปเกือบแสนซึ่งบทเรียนราคาแพง ทำให้รู้ว่าแท้จริงแล้วการทำ SEO ไม่ได้ยากหรือง่ายจนเกินไป เพียงแต่เราต้องเข้าใจกลไกโดยรวมของมันและหมั่นทดลอง เมื่อเห็นแบบนี้ก็กลัวว่าเพื่อนๆหน้าใหม่ที่พึ่งเข้าวงการ SEO จะถูกคนที่ไม่ได้มีความรู้ SEO แต่เลือกมาเปิดรับสอน SEO โดยกะฟันค่าเรียนจนเพื่อนๆอาจหมดตัวถอดใจไปเสียก่อนจากวงการนี้ก็ได้ อะไรที่ผู้เขียนทดลองมาแล้วทำอันดับได้ หากมีเวลาว่างก็ยินดีที่จะช่วยเหลือให้คำแนะนำแก่เพื่อนๆที่สนใจ ไม่ต้องมาหมกเม็ด ไม่ต้องไปเสียเงินเรียนแพงๆ เรียนแค่เรื่องที่เราอยากรู้โดยเฉพาะก็พอ เช่น อยากรู้ว่าปลั๊กอินเวิร์ดเพลสตัวนี้ตั้งค่ายังไง หากมีผู้รับสอนก็เรียนแค่เรื่องนั้นๆพอ ไม่ต้องไปเสียเงินเรียนซะทุกเรื่อง เพราะเดี๋ยวนี้อินเตอร์เน็ตเราเข้าถึงได้ง่าย แหล่งความรู้มีอยู่เต็มไปหมด สิ่งสำคัญคือศึกษาแล้วต้องทดลองทำถึงจะพบคำตอบว่าวิธีนี้ใช้ได้จริงไหม แม้แต่คำแนะนำจากผู้เขียนที่แบ่งปันให้ก็ต้องเอาไปทดลองเองด้วย เพราะวิธีทำ SEO แบบเดียวกัน ผู้เขียนอาจเคยทำมาในช่วง 3 เดือนก่อนแล้วมันได้ผลดี แต่ปัจจุบันอาจไม่ดีอย่างที่ควร หรือไม่ก็หากเวลาผ่านไปอาจจะใช้วิธีเดิมนี้ไม่ได้แล้ว แบบนี้เป็นต้น ทุกๆงานที่เราอยากประสบความสำเร็จ นอกจากจะมีที่ปรึกษาแล้ว เรายังต้องล้มลุกคลุกคลานกับมันเองด้วย